ในความเชื่อของคนไทย เบญจเพส ถือเป็นช่วงอายุที่หลายคนมักหวั่นใจ เพราะมักถูกมองว่าเป็นช่วงชีวิตที่มีเคราะห์หนักที่สุด บางคนเจอปัญหาชีวิตรุมเร้า ทั้งเรื่องงาน สุขภาพ ความรัก หรือแม้กระทั่งอุบัติเหตุ แต่ในอีกมุมหนึ่ง เบญจเพสก็อาจเป็นเพียงช่วงวัยเปลี่ยนผ่าน ที่หากเรามีสติและรู้จักแก้เคล็ดอย่างถูกวิธี ก็สามารถผ่านพ้นไปได้อย่างปลอดภัยและมั่นคง วันนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจ เบญจเพส ให้ลึกขึ้น ตั้งแต่ความหมาย อายุที่เข้าข่าย ไปจนถึงวิธีแก้เคล็ดเสริมดวง ที่ช่วยให้ชีวิตราบรื่นขึ้น
เบญจเพส คืออะไร
คำว่า เบญจเพส มาจากคำว่า “เบญจ” ที่แปลว่า “ห้า” และ “เพส” ที่หมายถึง “ยี่สิบ” เมื่อนำมารวมกันจึงหมายถึง อายุยี่สิบห้า แต่ตามหลักโหราศาสตร์ไทยแล้ว เบญจเพส ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตอนอายุ 25 เท่านั้น เพราะแต่ละคนมีวันเดือนปีเกิดต่างกัน ทำให้ช่วงอายุที่เข้าสู่เบญจเพสอาจไม่ตรงกันเสมอไป
ในทางโหราศาสตร์ไทย ช่วงอายุเบญจเพสถือเป็น “จุดเปลี่ยนของชีวิต” หรือช่วงเวลาที่ดวงชะตามักผันผวนมากที่สุด โดยเชื่อว่าเป็นเวลาที่ดาวพระเคราะห์บางดวงส่งผลกระทบโดยตรงต่อเจ้าชะตา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่น จากวัยเรียนเข้าสู่วัยทำงาน จากวัยหนุ่มสาวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ หรือการรับผิดชอบชีวิตตัวเองเต็มตัว
เบญจเพส อายุเท่าไหร่
หลายคนอาจเข้าใจว่าเบญจเพสหมายถึงอายุ 25 เท่านั้น แต่ในความเป็นจริง เบญจเพส ของแต่ละคนจะแตกต่างกันตามวันเกิด เช่น คนที่เกิดวันอาทิตย์ จะมีช่วงเบญจเพสต่างจากคนที่เกิดวันจันทร์ ซึ่งตำราโบราณมักคำนวณจากการโคจรของดาวประจำวันเกิด
โดยทั่วไป เบญจเพสของแต่ละวันเกิดจะอยู่ในช่วงอายุดังนี้
- คนเกิดวันอาทิตย์ → เบญจเพสอายุ 26 ปี
- คนเกิดวันจันทร์ → เบญจเพสอายุ 25 ปี
- คนเกิดวันอังคาร → เบญจเพสอายุ 24 ปี
- คนเกิดวันพุธ → เบญจเพสอายุ 29 ปี
- คนเกิดวันพฤหัสบดี → เบญจเพสอายุ 25 ปี
- คนเกิดวันศุกร์ → เบญจเพสอายุ 27 ปี
- คนเกิดวันเสาร์ → เบญจเพสอายุ 28 ปี
อย่างไรก็ตาม แต่ละตำราอาจมีรายละเอียดต่างกันไป บางสำนักถือว่าช่วงอายุ 25–29 ปี คือช่วงเบญจเพสทั้งหมด เพราะเป็นช่วงวัยที่ชีวิตมีการเปลี่ยนผ่านมากที่สุด ทั้งในด้านการงาน การเงิน และจิตใจ
วิธีแก้เคล็ดเบญจเพส เสริมดวงให้ชีวิตราบรื่น
เมื่อเข้าสู่ช่วงเบญจเพส หลายคนมักรู้สึกไม่มั่นใจ หรือกลัวว่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น แต่แท้จริงแล้ว การแก้เคล็ดหรือทำบุญเสริมดวงถือเป็นการตั้งสติ ทำให้เราใช้ชีวิตด้วยความรอบคอบมากขึ้น
1. ทำบุญถวายสังฆทาน
การถวายสังฆทานหรือเครื่องสังฆภัณฑ์ เช่น ของใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับพระสงฆ์ ถือเป็นหนึ่งในวิธีแก้เคล็ดยอดนิยม โดยเชื่อว่าจะช่วยต่อบุญ เสริมโชคลาภ และปัดเป่าความทุกข์ ให้ชีวิตราบรื่นขึ้น ยิ่งถ้าทำบุญในวันเกิดของตนเอง ก็ยิ่งเป็นสิริมงคลมากขึ้น
2. ปล่อยสัตว์หรือบริจาคทาน
อีกหนึ่งวิธีแก้เคล็ดเบญจเพส คือการ ปล่อยชีวิต เช่น ปล่อยปลา ปล่อยนก หรือช่วยเหลือสัตว์ที่เจ็บป่วย เพราะเชื่อว่าการให้ชีวิต จะช่วยต่ออายุและลดเคราะห์กรรม
3. ทำบุญกับโรงพยาบาลหรือผู้ป่วย
ในทางโบราณถือว่า การช่วยคนเจ็บไข้เป็นการต่อบุญที่สูงมาก เพราะได้ช่วยลดทุกข์ให้ผู้อื่น การบริจาคเงินหรือสิ่งของให้โรงพยาบาลจึงถือเป็นการเสริมดวงให้แข็งแรงทั้งกายและใจ
4. สวดมนต์ นั่งสมาธิ และรักษาศีล
การตั้งจิตให้สงบเป็นพื้นฐานของการแก้เคล็ดที่แท้จริง เพราะเบญจเพสไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาอย่างเดียว แต่เป็นช่วงเวลาที่เราควรทบทวนชีวิต สวดมนต์ภาวนา รักษาศีล และฝึกสมาธิ จะช่วยให้จิตใจมั่นคงและลดอุปสรรคที่เข้ามา
5. บริจาคสิ่งของจำเป็นให้วัด
การถวายของใช้จำเป็นให้วัด เช่น เครื่องสังฆภัณฑ์ ผ้าไตรจีวร หรือของใช้ส่วนตัวของพระภิกษุสงฆ์ เป็นอีกหนึ่งวิธีเสริมดวงที่นิยม เพราะช่วยให้บุญเกิดขึ้นโดยตรง และยังได้ช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนา
สำหรับผู้ที่ต้องการทำบุญในช่วงเบญจเพส แต่ไม่แน่ใจว่าควรถวายอะไรดี ปัจจุบันมีร้านสังฆภัณฑ์ออนไลน์มากมายที่จัดชุดของถวายสำเร็จรูป พร้อมส่งตรงถึงวัดหรือสถานที่จัดงาน ช่วยให้ผู้ทำบุญสะดวกขึ้น และสามารถเลือกได้ตามงบประมาณ เช่น ชุดสังฆทาน ผ้าไตรจีวร หรือของใช้สำหรับพระภิกษุสงฆ์
สรุปบทความ
เบญจเพสไม่ใช่ช่วงอายุแห่งความโชคร้ายเสมอไป แต่เป็นช่วงเวลาที่เตือนให้เรารู้จักระวังและใช้ชีวิตอย่างมีสติหากเราทำบุญเสริมดวงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะถวายสังฆทาน ปล่อยสัตว์ หรือช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก สิ่งดี ๆ ก็จะกลับมาสู่ชีวิต
เพราะสุดท้ายแล้ว เคล็ดลับการผ่านพ้นเบญจเพสอย่างแท้จริง คือการรู้จักทำความดี รักษาใจให้สงบ และไม่ประมาทต่อชีวิตเมื่อเรามีศรัทธาในความดี ชีวิตก็จะราบรื่นและพบเจอแต่สิ่งมงคล ไม่ว่าดวงจะอยู่ในช่วงใดก็ตาม
ติดต่อร้านนวรัตน์สังฆภัณฑ์
Line : @np1982
FB : https://www.facebook.com/Navaratretail
Tiktok : @navaratshop
IG : @navaratretail